PlayAgs ผู้สร้างเครื่องสล็อตและบิงโกอิเล็กทรอนิกส์มีผลขาดทุนในไตรมาสที่สองและพลาดการคาดการณ์ของ Wall Street แม้ว่ารายได้ของบริษัทจะมากขึ้นและสูงสุดก็ตาม
ในรายงาน 10-K ที่ยื่นในวันอังคารต่อคณะกรรมาธิการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ PlayAgS กล่าวว่ามีการขาดทุนสุทธิ 156,000 เหรียญหรือผลตอบแทนต่อหุ้น ลดลงจากรายได้สุทธิ 476,000 ดอลลาร์ หรือ 1% ต่อหุ้น เมื่อปีก่อน
ผลสรุปล่าสุดน้อยกว่าการคาดการณ์ฉันทามติต่อหุ้น 2 เซนต์ของนักวิเคราะห์
ที่สำรวจโดย Seeking AlphaPlayAgs กล่าวว่าต้นทุนบริการหนี้มากขึ้น 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งใส่คล้องกับการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยระดับตลาดที่สูงมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้คำตอบล่าสุดลดลง
รายได้ที่ปรับก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการตัดเสีย ซึ่งเป็นการวัดกระแสเงินสดที่ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว เพิ่มขึ้น 16.4% เป็น 40.1 ล้านดอลลาร์เป็นประวัติการณ์จาก 34.5 ล้านดอลลาร์
รายได้มากขึ้น 14.2% เป็น 89.4 ล้านดอลลาร์จาก 78.3 ล้านดอลลาร์ และเหนือกว่าฉันทามติที่คาดการณ์ 87.7 ล้านดอลลาร์ของนักวิเคราะห์ที่ผ่านการสำรวจของ Seeking Alpha
PlayAgs ได้รับรายได้มากขึ้นในกลุ่มธุรกิจรายได้จากการขายอุปกรณ์เมื่อเทียบปีมากขึ้น 31% เป็น 28.4 ล้านดอลลาร์รายได้จากการขายเครื่องเกมอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 30% เป็น 27.8 ล้านดอลลาร์
ฐานการติดตั้งเครื่องเกมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศของ PlayAgs ขยายตัวเป็น 16,424 ยูนิตเมื่อสิ้นสุดไตรมาส มากขึ้น 166 หน่วยจากปีก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาและมากขึ้นตามลำดับเป็นไตรมาสที่หกติดต่อกันยอดจำหน่ายเครื่องเกมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกมากถึง 1,345 หน่วยในไตรมาสที่สาม เพิ่มขึ้น 30% จาก 1,014 ยูนิตที่ขายเมื่อปีก่อน
โมเมนตัมของผลิตภัณฑ์ของเราและประสิทธิภาพของทีมที่มุ่งเน้น (ผลิต) ซึ่งเกินแนวโน้มที่ดูได้ในภูมิทัศน์การเล่นเกมในประเทศที่กว้างขึ้นมาก David Lopez ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PlayAgS กล่าวในแถลงการณ์ดังกล่าว
Kimo Akiona ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่า
EBITDA และผลการปฏิบัติงานแบบฟรีแคชโฟลว์ของ PlayAgs ทำให้บริษัทลดเลเวอเรจสุทธิเป็น 3.4 เท่าเมื่อจบไตรมาส ภายในช่วงสิ้นปีที่กำหนดเป้าหมายของ บริษัท ที่ 3.25 เท่าถึง 3.5 เท่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเต็มไตรมาสก่อนกำหนดไว้ เขากล่าว
หุ้น PlayAgs มากขึ้น 39 เซนต์ หรือ 4.95% ในวันอังคารปิดที่ 8.27 ดอลลาร์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหุ้นลดลงหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง โดยลดลง 52 เซนต์ หรือ 6.29% เพื่อปรับตัวที่ 7.75 ดอลลาร์